Custom logo     Log In  |  Mobile View  |  Help  
 
Visiting
 
Select a Color
   
 
5/20-6/2/2006: Brief Itinerary & Expenses

5/20-6/2/2006: Brief Itinerary & Expenses
 
 
 
Actually this trip came out of the blue. The last time we went abroad was in 1999.  Pravet attended a workshop at FAO Headquarters in Rome, Italy and of course I tagged along. Then I became ill at year end followed by thymectomy in March 2000. Not long after, our dearest daughter was diagnosed with bone cancer and had surgery in August. Since then we stayed home most of the time recuperating. Times flew by and although our health conditions became stable, the idea of long traveling didn't come to mind, let alone going abroad!
 
Anyway, one fine morning after our 26th anniversary last March, I just teased Pravet about going abroad as a special treat to our (mostly his) long and hard working lives and he simply agreed to the idea! I contacted a travel agency and even booked a week tour to Europe. Unfortunately the plan had to be cancelled in light of my father's urgent colectomy.  I thought the chance had come and passed us by and it might be years before we could really make another plan. However, earlier this year there was rumor about reorganization at Pravet's office and the possibility of 'golden handshake' to qualified retiring staff. Nothing's definite though and the final decision will be known after the General Conference in November. In good anticipation, Pravet signalled me to start materializing our cancelled trip. I took to his nod and went on planning. With my health condition in mind, we agreed to do the trip on our own, a half breed between the 'backpack' and the 'luxury'. I googled for interesting sights to visit and nice, convenient and affordable hotels to stay and after a month and a half, our program was ready.
 
Since this was our first trip abroad after I was diagnosed as Myasthenic (Myasthenia Gravis) so we didn't plan for travel in high altitudes nor on gradients nor where many steps are needed. Also since we didn't know how well I would do so we had a rather loose and adaptable schedule. Taking into account these limitations plus our age group, our program thus focussed mainly on museums and churches. Yet, a lesson was learned! Sight infos provided on internet aren't 3D, and '10-min walk' for Europeans could very well be ' 20 to half an hour' for a shorty Asian like me. So what actually happened was I had to skip many places. Details of the trip will be written separately in due time.
 
We flew by Austrian Airlines and used Eurail Network while in Europe. Our first stop was Switzerland where we spent 6 days visiting Geneva, Bern, Zurich, Interlaken, and Lucerne. Then we moved on to Vienna, Austria for another 3 days and wrapped up our trip by visiting our nephew in Munich, Germany for only 2½ days.  The photo blogs are presented in that order.


ที่จริงแล้วการไปเที่ยวครั้งนี้นับว่าเป็นสิ่งที่ไม่คาดฝันมาก่อนก็ได้ เพราะตั้งแต่ได้ไปเที่ยวกรุงโรม อิตาลี่ครั้งสุดท้ายในปี 2542 ที่คุณประเวทย์ไปเข้าคอร์สอบรมที่เอฟเอโอสำนักงานใหญ่ และฉันก็ติดสอยห้อยตามไปด้วยนั้น ตกปลายปีก็พบว่าฉันป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับระบบประสาทจากการแพ้ภูมิตัวเอง (ไม่ใช่โรค'ประสาท'นะจ๊ะ) และได้รับการผ่าตัดต่อมธัยมัสในเดือนมีนาคม 2543 แต่หลังจากนั้นไม่นานนักเราพบว่าลูกสาวที่รักยิ่งของเราเป็นมะเร็งกล้ามเนื้อกระดูกต้นขาขวา ลูกได้รับการผ่าตัดใส่ชิ้นส่วนขาเทียมฝังในเมื่อเดือนสิงหาคมปีเดียวกันนั่นเอง จากนั้นเราจึงไม่ได้เดินทางไปไหนอีก หากแต่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฟื้นตัวที่บ้าน จวบจนกระทั่งสุขภาพของทั้งคู่เริ่มเข้าที่เข้าทาง เราก็ยังไม่คิดถึงการไปเที่ยวไกลๆ นานๆ ยิ่งต่างประเทศยิ่งไม่ต้องนึก
 
แต่มาเดือนมีนาปีกลาย หลังจากวันครบรอบแต่งงาน 26 ปีผ่านไป ฉันก็ลองเอ่ยทีเล่นทีจริงว่าทำงานทั้งหนักทั้งเหนื่อยมาก็มากแล้ว น่าจะให้รางวัลชีวิตกับตัวเองบ้างนะ แบบไปต่างประเทศรัยเงี้ย ซึ่งเป็นที่ประหลาดใจมากที่ประเวทย์เห็นดีเห็นงามด้วย! เราถึงกับติดต่อจองทัวร์ไปยุโรป 7-8 วันกับบ.ท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง แต่แล้วก็ต้องขอยกเลิกกระทันหัน เนื่องจากคุณพ่อของฉันต้องรับการผ่าตัดมะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นกรณีฉุกเฉิน ฉันคิดว่าโอกาสที่มีมาได้ผ่านพ้นไปแล้ว และคงอีกนานกว่าเราจะได้ไปเที่ยว แต่แล้วมาต้นปีนี้ก็มีข่าวร่ำลือถึงการปรับเปลี่ยนองค์กรที่ออฟฟิศของประเวทย์ และอาจมีโครงการ 'จ้างออก' ให้กับผู้ที่ถึงวัยเกษียณ ซึ่งถึงแม้ยังไม่มีอะไรแน่นอน และกว่าจะรู้ผลก็ต้องรอหลังที่ประชุมใหญ่ในเดือนพฤศจิกโน่นก็ตาม แต่ประสามองโลกในแง่ดี (มากไปมั้ง) ประเวทย์จึงส่งซิกให้ฉันปัดฝุ่นแผนการเที่ยวยุโรปได้เลย อ๊ะ...มีรึที่ฉันจะชักช้า รีบอุ๊บอิ๊บแล้วเร่งดำเนินการทันใด และเนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพของฉัน เราเลยตกลงว่าจะไปเที่ยวกันเองแบบสไตล์ลูกครึ่งอ่ะ คือ...ไม่ถึงกับสมบุกสมบันแบบพวกแบกเป้...แต่ก็ใช่ว่าจะสะดวกสบายหรูหราทีเดียวนัก อาศัยความเป็นนักท่องเน็ตตัวยง ฉันก็ควานหาเมืองและสถานที่ที่เหมาะจะไปเที่ยว รวมถึงโรงแรมที่พักที่อยู่ไม่ไกล สะอาด มีห้องน้ำในตัว ราคาไม่แพง และสะดวกในการเดินทาง ซึ่งหลังจากเดือนครึ่งผ่านไปโปรแกรมทุกอย่างก็เรียบร้อย
 
หลังจากที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น MG หรือโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงจากการแพ้ภูมิตัวเอง ซึ่งต้องจำกัดการใช้กล้ามเนื้อเคลื่อนไหวต่างๆ ทั้งยังต้องทานยาไปตลอดชีวิตนั้น นี่นับเป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรก เราจึงต้องเลี่ยงการเดินทางท่องเที่ยวไปบนภูเขาสูงๆ หรือแม้กระทั่งพื้นที่ลาดชันสูง หรือที่ต้องไต่บันไดหลายสิบขั้น ก็เป็นสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง ทั้งยังไม่รู้ว่าสภาพของตัวฉันเองจะ'อึด'ไปได้ซักกี่น้ำ (ส่วนอืดน่ะ...ของตายอยู่แล้น!) โปรแกรมเที่ยวของเราจึงไม่อัดแน่นนัก หากแต่ค่อนข้างหลวมๆ สบายๆ และพร้อมปรับเปลี่ยนได้ เมื่อนำเอาข้อจำกัดทั้งหลายมาตั้ง บวกกับอายุที่กำลังดี๊กำลังดีแถวๆ ครึ่งศตวรรษ บวกความชอบส่วนตัว โปรแกรมของเราจึงเน้นไปที่พิพิธภัณฑ์และโบสถ์เป็นส่วนใหญ่ กระนั้นก็ตามเราก็ได้รับบทเรียนกลับมา! นั่นก็คือ...หนึ่ง ต่อให้หาข้อมูลจากเน็ตได้แน่นปึ้กแค่ไหน ส่วนใหญ่ข้อมูลเหล่านั้นก็เป็นเพียงตัวอักษร หาใช่ข้อมูลแบบ 3 มิติไม่ และ สอง ระยะทางที่ว่า 'เดิน 10 นาทีถึง' ของฝาหรั่งตัวโตๆ อ่ะ เท่ากับการเดิน '20 นาทีถึงครึ่งชั่วโมง' สำหรับเตี้ยอ้วนอย่างฉันเจียวละ ดังนั้นเอาเข้าจริงแล้ว ฉันจึงต้องขอบายหลายๆ แห่งทีเดียว รายละเอียดการเดินทางและการท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆ ฉัน(ตั้งใจ)จะแยกเขียนเป็นบันทึกต่างหากนะจ๊ะ ซึ่งยังไม่รุว่าจะเสร็จได้เมื่อไหร่ ความจำก็เริ่มเลอะเลือนเข้าไปทู๊กที เฮ้อ...ริอ่านเขียนเว็บเอาตอนแก่ ก็ชักช้า งกๆ เงิ่นๆ เป็นธรรมดาจ้า ^^
 
เราบินโดยสายการบินออสเตรียนแอร์ไลน์ ส่วนการเดินทางภายในยุโรปเราใช้บริการรถไฟของเครือข่ายยูเรล ซึ่งคุ้มค่าและสะดวกสบายอย่างมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในยุโรป แห่งแรกที่เราไปเยือนคือสวิตเซอร์แลนด์ โดยอยู่ถึง 6 วันและได้แวะเที่ยวเมืองต่างๆ ดังนี้  เจนีวาและชานเมือง กรุงเบิร์น ซูริค อินเทอร์ลาเค่น และ ลูเซิร์น จากนั้นเราก็บินไปยังกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยอยู่เที่ยวที่นี่ 3 วัน ก่อนจบการเที่ยวยุโรปครั้งนี้ด้วยการแวะไปเยี่ยมหลานชายที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมันเป็นเวลา 2½  บล็อกรูปภาพที่นำเสนอก็จะเป็นไปตามลำดับนั้นค่ะ
 
 
 
 
5/21-22/2006: Geneva and around
 
ในวันแรกเพื่อนคุณประเวทย์มารับที่สนามบินและได้กรุณาขับรถพาเราเที่ยวชมกรุงเจนีวา และขับพาเลาะทะเลสาบเจนีวาไปเที่ยวเมืองใกล้เคียง อาทิ นียง โลซานน์ เวเว่ มงเทรอซ์ กรุยเยร์ เป็นต้น ส่วนวันที่สองเราเดินสำรวจเจนีวากันเอง แต่เนื่องจากปัญหาสุขภาพและฝ่าเท้าที่อักเสบมากๆ เลยได้ดูไม่เท่าไหร่เองอ่ะ
 
 
5/23/2006: Bern
 
วันนี้เป็นการขึ้นรถไฟโดยใช้ตั๋วยูเรลเป็นครั้งแรก รถไฟสวิสสุดยอดมากขอบอก ยังดูใหม่อยู่เลย จุดหมายเราคือซูริค แต่เพราะถือตั๋วยูเรลทำให้สามารถแวะเมืองต่างๆ ได้ ตราบใดที่การเดินทางนั้นอยู่ภายในวันเดียวกัน ซึ่งเราได้ศึกษาเส้นทางและตารางรถไฟมาอย่างดีแล้ว จึงได้แวะเที่ยวกรุงเบิร์นก่อน
 
 
5/24/2006: Zurich
 
แม้จะมีปัญหาเรื่องฝ่าเท้า แต่ฉันก็ได้พยายามแก้ไขเท่าที่จะทำได้ (นี่ขนาดเอาไนกี้แอร์ของลูกสาวไปใส่แล้วนะ) แต่เพราะความที่สภาพภูมิประเทศ เป็นเนินสูงๆ ต่ำๆ ทำให้การเดินยิ่งเหนื่อยและเจ็บมากขึ้น จึงต้องพักอยู่บ่อยครั้ง ในที่สุดฉันต้องถอยกลับเข้าโรงแรม และปล่อยให้ประเวทย์ไปเที่ยว ตามลำพัง
 
 
5/25/2006: Interlaken-1
 
อินเทอร์ลาเค่นเป็นเมืองต้นทางสำคัญสำหรับผู้ที่จะขึ้นไปเที่ยวเทือกเขาแอลป์ในสวิส เช่น ยอดเขายุ้งเฟรา (Jungfrau) ที่โด่งดัง แต่สุขภาพฉันไม่เอื้อ จึงไม่ได้คิดจะมาเที่ยวที่นี่ โชคดีที่การปรับเปลี่ยนแผนทำให้มีวันเหลือ (คือซื้อตั๋วยูเรลชั้นหนึ่งสำหรับเดินทาง 5 วัน 3 ประเทศไว้แล้ว เลยต้องเดินทางให้ครบวัน) จึงตัดสินใจมาเมืองนี้เพราะสามารถใช้ตั๋วล่องเรือในทะเลสาบธูนเพื่อไปยังเมืองอินเทอร์ลาเค่นได้ฟรีด้วย ซึ่งถ้าไม่ได้มาต้องเสียใจไปตลอดชีวิต ขอบอกว่าเป็นประสบการณ์ที่ประทับใจสุดๆ
 
 
5/25/2006: Interlaken-2
 
นอกจากเป็นเมืองต้นทางสำหรับขึ้นไปเที่ยวยอดเขาต่างๆ แล้ว ยังมีพวกเขาที่สูงระดับกลางและถ้ำอีกมากมายให้ค้นหา แถมตัวเมืองยังเป็นลานร่อนลงจอดสำหรับพวกพาราไกลเดอร์ทั้งหลายอีกด้วย หรือถ้าใครอยากเสี่ยงโชค อินเทอร์ลาเค่นก็มีให้พร้อมสรรพ
 
 
5/26/2006: Lucerne (German = Luzern)
 
เมืองท่องเที่ยวอีกแห่งที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง โดยเฉพาะผู้ที่ถือตั๋วยูเรล นอกจากสามารถล่องเรือในทะเลสาบลูเซิร์นได้ฟรีแล้ว ยังสามารถแวะลงเที่ยวเมืองท่าต่างๆ ได้อีกด้วย ตราบใดที่จับเรือกลับให้ทันในวันเดียวกับที่ใช้ตั๋วจ้ะ
 
 
5/27/2006: Vienna and around
 
จากซูริคเราบินต่อมายังกรุงเวียนนาโดยมีเพื่อนคุณประเวทย์กรุณามารับที่สนามบิน แล้วพาไปทานอาหารที่ร้านไทยคิทเช่น (Thai Kitchen) ซึ่งเพื่อนเก่าของเราสมัยอยู่เอฟเอโอด้วยกันเป็นเจ้าของและเป็นเจ้าภาพเลี้ยง พอตกตอนบ่ายก็ยังกรุณาพาเราไปเที่ยวเมืองใกล้ๆ เช่น บาเดิ้น ที่เป็นแหล่งสปาที่โด่งดัง แล้วต่อไปยังเมืองกัมโปลด์สเคียร์เช่น ซึ่งเป็นแหล่งปลูกองุ่นและผลิตไวน์ที่ขึ้นชื่อมากๆ
 
 
5/28/2006: Vienna (1) - Stephandom
 
วันนี้อากาศหนาวทีเดียวเพราะฝนตกตลอดตั้งแต่กลางคืนแล้ว สองคนตายายออกตระเวนเที่ยวกันเอง ที่เวียนนาฉันยังเดินได้ดีกว่าที่สวิส เพราะพื้นที่ ส่วนใหญ่เป็นทางราบทำให้ไม่ลำบากมากนัก แม้ที่พักเราจะอยู่ไกลจากใจกลางเมือง แต่ก็ไม่เป็นปัญหาเพราะมีสถานีรถใต้ดินที่มีทั้งลิฟต์และบันไดเลื่อนบริการอยู่ที่สถานีรถไฟด้วย
 
 
5/29/2006: Vienna (2) - Hofburg - Vienna's Imperial Palace
 
วันนี้เราก็ยังคงเที่ยวอยู่ในกรุงเวียนนา ในอดีตนั้นราชอาณาจักรออสเตรียนับว่ามีความยิ่งใหญ่อย่างมาก ดังนั้นเมืองนี้จึงอุดมไปด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน สถาปัตยกรรมที่งดงาม รวมถึงศิลปะวัฒนธรรมที่หาได้ยิ่งหย่อนไปกว่าชาติอื่นๆ ไม่ ถ้าจะเที่ยวให้ได้ทั่วถึงจริงๆ คงต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งสัปดาห์แน่ๆ แต่เรามีเวลาแค่ 2 วัน ภาพที่ได้มาจึงเป็นแค่เศษเสี้ยวของกรุงเวียนนาเท่านั้น
 
 
5/30/2006: Munich (1) - Glockenspiel at Marienplatz
 
เราใช้ตั๋วยูเรลวันที่ 4 นั่งรถไฟเข้าเมืองมิวนิค เพื่อไปแวะเยี่ยมหลานชายที่ทำงานอยู่ที่นั่น หลานมารอรับที่สถานีรถไฟมิวนิคเฮ้าท์บาห์นโหฟ แล้วพาขึ้นรถรางไปพักที่อพาร์ตเม้นท์ของเขา ซึ่งค่อนข้างสะดวกมากเพราะมีสถานีรถไฟใต้ดินอยู่ไม่ไกล ทำให้การเดินทางเข้ามายังใจกลางเมืองง่ายมาก วันนี้หลานลางานตอนบ่ายพาเราไปเที่ยวที่ต่างๆ
 
 
5/31/2006: Munich (2) - Allianz Arena, Siegestor, Theatinerkirche
 
ช่วงที่เราไปนั้นเทศกาลบอลโลกครั้งที่ 18 จวนเจียนจะเริ่มแข่งแล้ว ซึ่งเยอรมันเป็นเจ้าภาพและคู่เปิดสนามก็แข่งที่สนามอัลลิอันซ์ในมิวนิคนี่เอง ประสาคอบอลฉันจึงต้องตะกายไปดู ไปถึงที่แล้วแต่หมดปัญญาที่จะเดินไปที่สนามเพราะไกลมั๊ก จึงได้แต่ถ่ายรูปมาเป็นที่ระลึก แล้วก็นั่งรถอูบาห์น (รถใต้ดินของเยอรมัน) กลับเข้ามาเที่ยวในเมืองต่อ เช่น ประตูชัยซีเกสตอร์ และ โบสถ์เธียทิเนอร์เคียร์เช่ที่สวยงามอร้าอร่าม
 
 
 
 
 
 
 
 
ค่าใช้จ่ายของ 2 คนตายาย
 
 
 
เนื่องจากทัวร์เราไม่เน้นเรื่องกินและชอปปิ้งนะ แต่จะเน้นความสะดวกสบายในการเดินทางและที่พัก
ฉะนั้น ตัวเลขที่แสดงนี้ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบของแต่ละท่าน
เช่น อาจจะตัดทอนในส่วนค่าที่พัก แล้วไปเพิ่มในส่วนค่าอาหาร เป็นต้น หรือถ้าใครไม่ชอบเที่ยวพิพิธภัณฑ์ ก็สามารถทอนค่าใช้จ่ายลงได้อีกค่ะ
 
 
 
 
 สวิสวีซ่า+เช็งเก้นวีซ่า (Multiple Entries)
6,660.00
 ตั๋วเครื่องบินไปกลับ BKK-VIE-GEN/ZRH-VIE-BKK 2 คน
 71,550.00
 ประกันการเดินทาง+ค่าธรรมเนียมสนามบินดอนเมือง
2,980.00
 ตั๋วรถไฟยูเรลชั้น1, 5 วัน, 3 ประเทศ 2 คน+ค่าธรรมเนียม
24,554.00
 ค่าโรงแรมที่พัก GEN (2 คืน)+ZRH (4 คืน)+VIE (3 คืน)
30,100.00
 ตั๋วโดยสารในเมือง+ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆ+เช่าตู้ล็อคเกอร์
4,100.00
 จิปาถะ (อาหาร+ของฝาก+ของส่วนตัว)
22,100.00
รวมยอดค่าใช้จ่ายในทริปนี้
฿162,044.00
 
 
 
เบ็ดเสร็จตกคนละตีซะว่าแปดหมื่นบาท สำหรับการเดินทางทั้งหมด 14 วัน ซึ่งถ้าหักช่วงที่อยู่บนเรือบินหัวท้ายออก 2 วัน ก็เท่ากับเป็นการเที่ยวจริงๆ 12 วัน
คิดดูแล้วฉันก็ว่าคุ้มกว่าการไปกับทัวร์อย่างมาก เพราะเราสามารถเลือกสถานที่ที่จะไปชมได้ นานเท่าไหร่ก็ได้เท่าที่ต้องการ โอเคอาจจะไม่ได้กินอาหารหรูๆ
แต่ฉันเป็นคนกินรัยยากอยู่แล้ว หาซื้อทานเองจะสะดวกกว่า โรงแรมที่พักแม้จะไม่ถึง 4 ดาว แต่ก็ไม่ถึงกับต้องพักหอรวมแบบพวกหนุ่มสาวที่แบกเป้เที่ยว
โรงแรมฉันอยู่ระหว่าง 2-3 ดาว มีห้องน้ำในตัว และสะอาดปลอดภัย
ที่สำคัญ...ไม่ต้องรีบตื่นตามกำหนดทัวร์ ไม่ต้องนั่งเมื่อยแล้วเมื่อยอีกไปบนรถทัวร์ยามเดินทางระหว่างเมือง หรือข้ามประเทศ
ท่านใดที่อยู่ในวัยเกินครึ่งศตวรรษแบบเรา หรือมีปัญหาด้านสุขภาพ สามารถนำรูปแบบทัวร์ของเราไปปรับใช้ได้นะคะ
มีปัญหาหรือข้อสงสัยใด กรุณาโพสต์ไว้ได้เลยค่ะ ถ้าช่วยได้ก็ยินดีและเต็มใจค่ะ
ถ้าโพสต์ไม่ได้ ก็อีเมล์ไปหาได้ที่ ctninga@hotmail.com ค่ะ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

Creation date: Sep 22, 2007 2:12am     Last modified date: Oct 6, 2013 11:42pm   Last visit date: Dec 11, 2024 12:11am
    Report Objectionable Content